

ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด การทำให้ร่างกายของตัวเองดีและแข็งแรงให้มากที่สุดถือเป็นที่สำคัญ ดังนั้นทาง Changenow จึงไปหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารต้านโควิด มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้และนำไปป้องกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ไข่ 1 ฟอง ให้สารอาหารโปรตีนประมาณ 6 กรัม สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีสามารถรับประทานไข่ได้วันละ 1 ฟอง เพราะ ไข่ไก่นั้นให้ประโยชน์คือ มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้กระดูกแข็งแรง เป็นอาหารที่รับประทานแล้วอิ่มท้อง ช่วยลดน้ำหนักได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบอีกด้วย
นมหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์
ซึ่งประกอบด้วยโปรตีนและแคลเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ควรเลือกผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ นมพร่องมันเนย และนมขาดมันเนย โดยนมขาดมันเนย 1 แก้ว ให้โปรตีน 8 กรัม และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น อกไก่ปั่น Chamgenow เป็นอกไก่ปั่น ที่มีโปรตีนจากอกไก่และถั่วลันเตารวมกันสูงถึง 35 g คนแพ้นมวัวก็ดื่มได้ โดยมีส่วนผสมจากนมข้าวโอ๊ตปราศจากน้ำตาล ผ่านนวัตกรรมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เก็บได้นาน ถึง 6 เดือน โดยไม่ใส่วัตถุกันเสีย ที่สำคัญได้การรับรองจาก อย. แถมยังเป็นแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติดื่มง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ผ่านกรรมวิธีที่ถูกสุขลักษณะ และปลอดภัยไม่มีกลิ่นคาว แต่มีกลิ่นหอมจากน้ำนมข้าวที่หอมอร่อย ปลอดภัยต่อสุขภาพ
เนื้อปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีและมีไขมันต่ำ ในเนื้อปลา มีโปรตีน กรดโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่ดีต่อหัวใจ ทั้งนี้ปลานับว่าเป็นอาหารที่มีความเหมาะสมต่อร่างกายของคนเรา เพราะมีแร่ธาตุในปริมาณสูง เราจึงใช้ปลาเป็นแหล่งอาหารโปรตีน เพราะโปรตีนที่ได้จากปลาจะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน และมีประสิทธิภาพการใช้ของโปรตีนและการใช้ให้เป็นประโยชน์ในร่างกายได้ผลดีรองจากไข่และนม จะเห็นได้ว่า ปลานั้นมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างดียิ่ง พอจะสรุปได้ดังนี้คือ
ควรเลือกรับประทานเนื้อบริเวณอกที่ไม่ติดหนัง เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว โดยอกไก่ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 120 แคลอรี่ และให้โปรตีนสูงถึง 22.50 กรัม ในขณะที่มีไขมันเพียง 2.62 กรัมเท่านั้น อีกทั้งยังปราศจากน้ำตาลและประกอบไปด้วยสารโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และวิตามินเอ โดยในปัจจุบันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บางส่วนได้พิสูจน์คุณประโยชน์ไว้อย่างมากมาย
เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อแกะ เป็นแหล่งโปรตีนที่ให้พลังงานสูง แต่บางครั้งก็มีไขมันและคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหแอดเลือดหัวใจอุดตันได้ จึงควรเลือกรับประทานส่วนที่ไม่ติดมัน ได้แก่ เนื้อส่วนสะโพกและเนื้อส่วนหลัง โดยเนื้อสัตว์ใหญ่ 85 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 22 กรัม สำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ ควรรับประทานโปรตีนจากพืชทดแทน ได้แก่ ถั่ว ธัญพืช ผักและผลไม้ แต่โปรตีนจากพืชเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ จึงควรรับประทานให้หลากหลายในแต่ละวัน เพื่อจะได้รับกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการครบถ้วน หรือเลือกรับประทานโปรตีนจากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นพืชที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนเป็นหลัก การรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งอาหารประเภทโปรตีน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ ซึ่งผู้บริโภคควรเลือกรับประทานโปรตีนที่มีคุณภาพและรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน
แค่เอ่ยชื่อเมนูชาเขียว บรรดาชาเขียวเลิฟเวอร์ก็นึกถึงกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของใบชา และรสชาติแสนอร่อยขึ้นมาทันที ชาเขียวสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของเมนูอาหารหลายประเภท เช่น ขนม ไอศกรีม หรือเอามาผสมกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ก็อร่อย ชาเขียวเป็นชาที่ได้มาจากต้นชาคาเมเลียไซเนนซิส ชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก ทำให้สารอาหารยังอยู่ครบ จึงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาอู่หลงและชาดำ แต่เนื่องจากชาเขียวมีคาเฟอีน จึงควรบริโภคแต่พอดีและหลีกเลี่ยงครื่องดื่มชาเขียวที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะอาจจะได้น้ำหนักตัวเป็นของแถม หากชงชาจากถุงชาขนาด 1.8 กรัม โดยไม่เติมน้ำตาลหรือนม จะให้พลังงาน 0 แคลอรี่ เท่ากับกาแฟดำ ซึ่งมีสรรพคุณต้านโรค ใบชาเขียวมีสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โพลีฟีนอล กรดอะมิโน วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี ช่วยบรรเทาหวัด แก้ร้อนใน ขับสารพิษและขับเหงื่อในร่างกาย ชาเขียวเป็นอาหารต้านเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ ส่วนสารคาเฟอีนก็ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายตื่นตัว สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน การดื่มชาเขียวจะช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และน้ำตาลกลูโคสในตับ
โดยเราเชื่อว่าทุกคนคุ้นเคยกับอาหารต้านไวรัสทั้ง 6 อย่างนี้อยู่แล้ว แต่อาจไม่รู้ถึงสรรพคุณของสิ่งเหล่านี้ว่าประโยชน์ต่อร่างกายและมองข้ามไป นอกจากจะเลือกทานอาหารดีๆ แล้ว ควรพักผ่อนให้เพียงพอและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสที่ทำให้คนเครียด วิตก กังวล ซึ่งเราเข้าใจและจะค่อยเป็นกำลังใจ เพื่อให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ดังนั้น ควรดูแลสุขภาพกายให้ดี แล้วอย่าลืมใส่ใจสุขภาพจิตด้วย นี่แหละคือภูมิต้านทานโรคและไวรัสชั้นยอดที่สุด